รัฐโปรยยาหอมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 65 ดันหุ้นไทยปิด +6.45 จุด

เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

ตลาดหุ้นไทยปิด +6.45 จุด โบรกฯ เผยหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจส่วนใหญ่ซึ่งจะประกาศใช้ในปี 2565 พร้อมมาตรการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ “Omicron” แนะจับตาการประชุม กนง.ในวันพรุ่งนี้ ประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,615 จุด และแนวต้านที่ 1,630 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 21 ธันวาคม 2564 ปรับตัว +6.45 จุด หรือ +0.40% โดยมาอยู่ที่ 1,622.25 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 69,244.56 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,628.84 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,618.57 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 696 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 642 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 756 หลักทรัพย์

ด้านที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า 2,030.60 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 259.62 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,187.78 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,102.44 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BRI มูลค่าการซื้อขาย 4,870.41 ล้านบาท ปิดที่ 12.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.90 บาท
2.GPSC มูลค่าการซื้อขาย 4,286.12 ล้านบาท ปิดที่ 81.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
3.EA มูลค่าการซื้อขาย 2,340.73 ล้านบาท ปิดที่ 93.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,814.63 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
5.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,641.93 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 218.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ +2.83%
2.GPSC ปิดที่ 81.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ 4.14%
3.SCC ปิดที่ 379.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 0.80%
4.AEONTS ปิดที่ 187.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.35%
5.COM7 ปิดที่ 81.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.88%

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.TQM ปิดที่ 102.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.44%
2.BH ปิดที่ 138.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.07%
3.ORI ปิดที่ 11.00 บาท ลดลง 0.70 บาท หรือ 5.98%
4.SINGER ปิดที่ 52.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.95%
5.CPF ปิดที่ 23.60 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 1.26%

ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,204.34 จุด เพิ่มขึ้น 8.68 จุด หรือ 0.40% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 962.82 จุด เพิ่มขึ้น 3.56 จุด หรือ 0.37% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 565.04 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด หรือ 0.01%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทยว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ในช่วงแรกดัชนีบวกได้ค่อนข้างดี เป็นการฟื้นตัวตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้าประมาณ 0.5% ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นขึ้นแรงถึง 2% เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ฟื้นตัวขึ้นได้กว่า 0.8% หลังจากที่ได้ปรับตัวลงไปมากจากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในยุโรป

ขณะที่มุมมองการลงทุน SET INDEX หลังจากที่ทราบผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่จะประกาศใช้ในปี 2565 และมีการชะลอการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยว ทำให้ดัชนีลดช่วงบวกลงมาเล็กน้อย แต่โดยรวมยังบวกได้หลังจากที่ปรับตัวลงไปมากแล้ว อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนยังต้องติดตามการประชุม กนง.ในวันพรุ่งนี้ และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนต่อไป รวมถึงคืนนี้จับตาการแถลงของ “ไบเดน” ซึ่งอาจมีเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดด้วย

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ มองว่าทิศทางตลาดน่าจะแกว่งออกด้านข้าง หลังจากที่ใกล้จะถึงวันหยุดระยะยาวของฝั่งยุโรปในอีก 1-2 วันข้างหน้า ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดซบเซาได้ โดยประเมินแนวรับที่ 1,615 จุด ขณะที่แนวต้านที่ 1,630 จุด

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket